เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจมากเลยนะครับในยุคของปัจจุบัน เพราะต้องบอกเลยว่ายุคของปัจจุบันนี้เทคโนโลยีนั้นก้าวไกลมาก การจะทำอะไรต่างๆก็เป็นไปได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะต้องบอกเลยว่าเดี๋ยวนี้นั้น การที่คนเราจะซื้อของอะไรก็แล้วแต่ ไม่จำเป็นต้องไปเองแล้ว เพราะไปเองนั้นหลายคนคงคิดว่า หนึ่งการเดินทางลำบาก รถติด สองอยู่ต่างจังหวัด ไม่สามารถที่จะไปซื้อของได้ด้วยตนเอง จนทำให้หลายต่อหลายคนนั้นหันมาเลือกที่จะซื้อของออนไลน์ตามเว็บไซต์หรือสื่อออนไลน์ต่างๆ เพราะสะดวก และในบางครั้งนั้นได้ราคาที่ถูกกว่าการที่จะต้องไปซื้อด้วยตัวเอง ซึ่งการซื้อของออนไลน์นั้นบางครั้งก็ถือว่าเป็นการเสี่ยง เพราะถ้าเราดวงดีเราก็อาจจะซื้อของได้อย่าสันติโดยที่ไม่ได้มีเรื่องราวอะไร แต่ถ้าไม่ เราอาจจะเป็นหนึ่งคนที่โชคร้ายที่โดนโกงไปนั้นเอง ซึ่งการโกงนั้นก็คือการที่ให้เราโอนเงินไปตามบัญชีของเค้า แต่เราก็ไม่ได้รับของ ซึ่งถือว่าการกระทำแบบนี้ของผู้ขายนั้น เป็นการฉ้อโกงอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่ามันผิดกฎหมาย และผู้ซื้อนั้นก่อนที่จะซื้อผมแนะนำว่าน่าจะเลือกหาที่ซื้อที่มันไว้ใจได้ และความจะเช็คประวัติเก็บข้อมูลของผู้ขายให้ได้มากที่สุด อีกทั้งการซื้อของออนไลน์นั้นไม่ควรอย่างยิ่งที่จะซื้อของที่มูลค่ามากๆ เพราะถือว่าเสี่ยงมากเกินไป ควรที่จะซื้อของที่อยู่ในราคาที่พอดีเท่านั้น ซึ่งถ้าผู้ที่จะทำธุรกิจการค้าออนไลน์นั้น ควรที่จะจดทะเบียนพาณิชย์ให้เรียบร้อยซะก่อน และควรมีหน้าเว็บที่ขายสินค้าที่โชว์รูปและราคาอย่างชัดเจน และควรมีรูปตราของทะเบียนพาณิชย์ด้วย ซึ่งโทษของการฉ้อโกงนั้น ถ้าเรามีการติดต่อกันแบบตัวต่อตัว เราตัดสินใจโอนเงินไปแล้วแต่ไม่ได้รับสินค้า ผู้ขายจะมีโทษในการจำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกินหกพันบาท ถ้าเป็นเกิดการฉ้อโกงแบบนี้ แต่เกิดบนสื่อออนไลน์สาธารณะ อย่างเช่น Facebook หรือ Youtube นั้น ถือได้ว่าเป็นการฉ้อโกงที่หนักกว่าเพราะไม่ได้เป็นการหลอกลวงแบบตัวต่อตัว เป็นการหลอกลวงประชาชน จึงมีโทษในการจำคุกไม่เกินห้าปี ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งผู้เสียหายนั้นควรเข้าไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเข้าแจ้งไม่เกินสามเดือน และรวมรวมหลักฐานต่างๆที่เราติดต่อกับเค้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าเว็บบอร์ดขายสินค้า แชทที่คุย ใบเสร็จการโอนเงิน ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสามารถนำไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีได้ทั้งสิ้น